มาถึงบทความรีวิวพาเที่ยวบ้างละกัน ผมได้มีโอกาสไปผ่อนคลาย ละลายความเหนื่อยล้า (แฮ่) เป็นสถานที่ไม่ไกลจากเมืองเชียงใหม่ และเป็นกระแสความฟินที่ผู้คนได้ไปเยือนแล้วมาเล่าสู่กันฟังมากมาย นั่นคือ “Phufinn” ที่นั่งชิลๆ ที่สาวๆชอบไปถ่ายภาพกัน ไม่รอช้า ไปเที่ยวกันเย้ย

ต้องบอกก่อนนะ ว่าภาพถ่ายที่ผมถ่ายมาถ่ายด้วยกล้องมือถือของผมเอง แฮะๆ ถ่ายไม่ค่อยเก่งด้วย ภาพก็เลยอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยนะครับ และบทความนี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางร้านแต่อย่างใด

เริ่มเดินทาง

ผมเดินทางจากแถวๆหลัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช) ซึ่งผมก็ไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน ดังนั้นต้องพึ่ง GPS ของ Google map ค้นหาคำว่า “ภูฟิน” จะเจอสถานที่ให้เลือก ซึ่งภูฟิน มีสองสาขา คือ ภูฟินทะเลสาบ กับภูฟินบนดอย ในรอบนี้เราจะไปเที่ยวที่สาขาทะเลสาบกัน

เส้นทางที่จะไปจากหลัง มช. ประมาณ 16 กม. เราจะไปตามทางนี้เลยละกัน

ขับรถไปตามเส้นทางเรื่อยๆ

พอใกล้ๆจะถึง เลี้ยวเข้ามาจากถนนใหญ่ ก็จะเป็นทางเงียบๆสงบๆ แบบนี้ (มาถูกทางรึป่าวเนี่ย)

ขับมาเรื่อยๆ จะโค้งไปโค้งมา ตามซอยหมู่บ้าน ก็จะมีป้อมทางเข้าหมู่บ้าน และมีลุงยามอยู่ เราทักทายลุงยาม และบอกว่า “จะไปภูฟินครับ” ลุงก็บอกว่า “ตามป้ายสีขาวนั่นไปเลยน้อง” ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ไอ้ป้ายขาวบอกเลี้ยวขวา แต่ google map บอกเลี้ยวซ้ายนี่สิ แต่ดูจากแผนที่แล้วมันก็น่าจะไปประจบกัน ผมจึงตัดสินใจเชื่อป้ายดีกว่า แต่พอเลี้ยวไป ขับไปตามทาง เอ้าป้ายหาย หรือเรามองไม่ทันเห็น แล้ว google map ก็กำลังคำนวณหาเส้นทางใหม่ จากนั้นก็ค้างไปเลย ข้างทางก็เป็นป่าละเมาะ

ถึงจุดหมาย

ไม่นาน Google map ก็กลับมาอีกครั้งทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ด้วยดี แฮ่ๆ พอมาถึงก็จะพบป้ายเขียนว่า ภูฟิน !! และมีที่จอดรถ ข้างหน้าอาคารคล้ายๆบ้านพักอะไรสักอย่าง

แต่พอเดินมาอีกด้านก็จะเป็นทางเข้า ตกแต่งด้วยไม้ ดูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทันที

ป้ายทางเข้า

ด้านหน้าอีกที่เป็นจุดที่คนน่าจะชอบมาถ่ายรูปกัน  แต่ตอนนี้มันร้อนก็เลยไม่มีคน

เดินเข้ามาในร้าน จะมีป้ายบอกวิธีสั่งออเดอร์ คือไปเลือกที่นั่งแล้วเขียนรายการอาหาร จากนั้นไปชำระเงินที่เคาเตอร์ แสดงว่าจ่ายตังก่อนกินนะครับ

บรรยากาศในร้าน

เราก็เดินไปเลือกโต๊ะนั่งกันเลย น่าจะมีสามโซนคือ โซนริมน้ำมีที่นั่งตาข่ายริมน้ำ โซนริมน้ำเป็นระเบียง และโซนด้านบนที่ไม่ติดน้ำแต่เห็นวิว เราเลือกนั่งโซนที่มีตาข่ายละกันจะได้ถ่ายภาพด้วย โต๊ะ 43

ตอนที่เราไปเป็นตอนเที่ยง อากาศเลยร้อนนิดนึง แต่คนก็ยังเยอะอยู่นะ

บนตาข่ายมีหมอนให้ นั่งได้ทีละ 1 คน เท่านั้นนะ

บนโต๊ะมีป้ายเขียนด้วยว่า มีอีกสองสาขา คือ สาขาบนดอย แล้วก็ตำฟิน

รายการอาหาร

มาดูเมนูอาหารกันบ้าง เมนูแนะนำ ราคา 130 บาท ขึ้นไป

พวกเค้กก็มีเหมือนกัน แต่ราคาโหดพอตัวเลย 80 บาท ขึ้นไป

อาหารจานเดียว ราคาก็มหาโหดมาก (สำหรับผมนะ) ราคา 90 – 170 บาท

เมนูพิเศษ พวกเครื่องดื่ม หน้าตาดูหน้ากินมาก แต่ราคา แก้วละ 90 บาทเลย

การศึกษาคือการลงทุนฉันใด การกินก็เป็นการลงทุนฉันนั้น ไหนๆก็มาแล้ว ต้องลองหน่อยครับ เราเลยสั่งมา 3 เมนู กินสองคน จ่ายไป 343 บาท

รอแปบนึง ประมาณสัก 5 นาที บนโซฟานุ่มๆ ก็ได้แล้ว โอริโอ้มิลเชค กับ ช็อคโก บราวนี่เชค มีกระดาษแปะที่แก้วด้วยจะได้ไม่ งง ว่าโต๊ะไหน

อากาศร้อนมากเลยทีเดียว

รออีกแปบนึง ก็ได้แตงโมน้ำแข็งใส มากิน มีใส่น้ำแข็งแห้งที่จานรองด้วย ทำให้มีควันออกมา ดูไฮโซในทันที พร้อมกับเข็มฉีดน้ำแดง แล้วก็มีแก้วสำหรับเติมนมข้นเองให้ด้วย โดยน้ำแข็งแห้งพนักงานมาใส่บริเวณโต๊ะเราก่อนเสริฟ ไม่ได้ใส่มาตั้งแต่ในครัวนะ เดี๋ยวควันจะลอยมาตามทางเอา

พอเติมน้ำแดง กับนมข้นเข้าไป

มุมชิลๆ

นั่งกิน ดูดดื่มความฟินไปแล้ว ก็มาถ่ายรูปกันบ้าง บริเวณตาข่าย

ลองมานั่งดูบ้าง (ไม่มีรูปเจ้าของบล็อกไม่ได้นะ ตัวจริงก็อืดแบบในรูปเลย ตอนนี้)

อีกมุมนึงมี เปล สำหรับนั่งเล่นด้วย

นี่คือ ทะเลสาบ ที่ทางร้านกล่าวไว้ (มันคืออ่างน้ำบ้านๆเนี่ยแหละ) น้ำน่าจะแห้งไปพอสมควรเลย ถ้ามองดูจะมีเป็ดมาเล่นน้ำด้วย (น่าร๊าก)

มาดูอีกมุมของตาข่ายนั่งเล่นริมน้ำนี้จะเห็นว่าด้านล่างเป็นดิน เพราะน้ำน่าจะแห้ง ถ้าตาข่ายขาด โช๊ะ !! ไม่ได้ล่วงลงน้ำนะครับ หล่นลงดิน ตุ๊บ!!

มาลองนั่งอีกที่ เมื่อกี้มันแดดร้อนส่องลงมานิดนึง มานั่งเล่นอีกที่ร่มกว่า

ก่อนจะกลับ เดินขึ้นมาด้านบนเพื่อเข้าห้องน้ำจะเป็นโซนโต๊ะด้านบน แล้วก็จะเห็นอ่างน้ำ

แล้วก็แชะภาพบริเวณทางเข้าสักเล็กน้อย

ห้องน้ำ

ก่อนกลับก็เข้าห้องน้ำก่อน สะอาดน่าประทับใจมาก

เดินทางกลับ

นั่งในร้านประมาณ 1-2 ชม ละมั้ง จากนั้นก็เดินทางกลับ ไม่ได้กลับทางเดิมตอนขามาด้วย เพราะป้ายให้ออกทางใหญ่เลย เอ้าแสดงว่ามันมาอีกทางได้ เป็นทางที่สะดวกกว่า ฮ่าๆ ไม่ต้องไปเข้าซอยหมู่บ้านเหมือนตอนมา ใครจะมาก็ตรวจดูเส้นทางดีๆก่อนนะครับ

จบแล้ว

ทริปนี้สนุกมากครับ ร้านบรรยากาศดีทีเดียว แม้ว่าจะเป็นอ่างน้ำธรรมดาแต่ก็สามารถทำให้เป็นจุดขายได้ แล้วก็สามารถสร้างสิ่งที่น่าสนใจได้ดีด้วย การเดินทางไม่ค่อยสะดวก ถ้ามาตามทางที่ผมมา อาหารราคาโหดพอสมควรเลย ผมหมดไป 343 บาท เรื่องการบริการดีมากครับ อาหารได้ไว รสชาติไม่ได้แย่ ส่วนบรรยากาศถือว่าโอเค รวมๆแล้วประทับใจครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ