สวัสดีครับ บล็อกนี้เป็นบันทึกการเดินทางไปสอบสัมภาษณ์งานที่ กฟภ. ของผมเอง ก่อนหน้านี้ผมได้สมัครงานของ กฟภ. ปี 2561  สมัครในตำแหน่งนักระบบคอมพิวเตอร์ ที่สำนักงานใหญ่ โดยในประกาศเขาบอกว่าตำแหน่งนี้รับ 8 คน และสอบข้อเขียนในวันที่ 29 เม.ย. 2561 ซึ่งประกาศผลสอบข้อเขียนในวันที่ 29 พ.ค. 2561 ปรากฏว่าผมผ่านและได้เข้ารอบมาสอบสัมภาษณ์ครับ สัมภาษณ์วันที่ 8 มิถุนายน 2561 เวลา 7:30 ที่ กฟภ. สำนักงานใหญ่ ดังนั้นบล็อกนี้จะบันทึกการเดินทาง และประสบการณ์ต่างๆที่ได้เจอครับ รวมทั้ง รวมทั้งการสัมภาษณ์ด้วยครับ

บล็อกตอนก่อนหน้านี้ เดินทางไปสอบข้อเขียน

บันทึกการสอบข้อเขียน กฟภ. 2561 ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต

เดินทางไปที่พัก

วันที่ 7 มิถุนายน 2561

ผมอยู่บ้านที่ลำปาง ดังนั้นเลยต้องเดินทางไป กทม ก่อน 1 วัน ก็ขึ้นเครื่องบินไป จองเที่ยวบินล่วงหน้าประมาณ 7 วัน ราคาไป-กลับประมาณ 3,500 บาท เครื่องออกที่ลำปางประมาณ 14:35 รวมๆเวลาเดินทางถึงที่พักประมาณ ก็เกือบๆ 5 โมง โรงแรมที่ผมเลือก คือ SIAM PARADISE ผมจองจากใน Agoda คืนละ 850 บาท โดยเลือกจากระยะทางที่ใกล้ที่สุดเพราะจะได้เดินทางไปสัมภาษณ์ง่ายๆ โรงแรมนี้ด้านหน้าจะเป็นร้านอาหาร ร้องคาราโอเกะ ส่วนโรงแรมต้องเดินทะลุเข้าไปข้างในนะ สังเกตว่าป้ายเขียนว่า SIAM PARADISE ENTERTAINMENT COMPLEX ผมเห็นในรูปข้างในมีบริการนวดแล้วก็อ่างอากุชชี่ด้วย

โรงแรมนี้ใกล้กับ กฟภ. ที่เป็นสถานที่สัมภาษณ์มาก เดินไม่ถึง 500 เมตร แล้วก็แค่เดินเรียบตามฟุตบาทไปก็ถึงแล้ว

แล้วก็มีเซเว่นอยู่ใกล้ๆที่พักด้วย เป็นเซเว่นที่ใหญ่มากทีเดียว โดยผมต้องเข้าสัมภาษณ์ช่วงเช้า คือ รายงานตัว 7:30 เลยคิดว่าตอนเช้าอาจจะหาอะไรกินไม่ทัน ผมเลยซื้อพวกขนมปัง และนมไว้ ตื่นมา พรุ่งนี้ก็จะได้กินง่ายๆที่ห้องเลย

มาดูห้องพักกัน ก่อนอื่นห้องพักมีค่ามัดจำกุญแจตอนเข้า 1,000 บาท และจะได้คืนตอนคืนกุญแจ เป็นราคามัดจำที่โหดเหมือนกันนะ ปกติผมเจอส่วนใหญ่จะ 500 บาท ซึ่งการพักที่นี่ โดยรวมผมประทับใจมาก อย่างแรกคือพนักงานผู้หญิงที่เคาเตอร์น่ารัก สุภาพมาก ไหว้ผมระมาณ 4 รอบได้ จากนั้นผมก็ขึ้นมาที่ห้อง ห้องก็สะอาดดี ห้องน้ำก็สะอาดมาก ห้องอาบน้ำเป็นห้องกระจก ปรับอุณหภูมิของน้ำได้จากก็อกเลย ในห้องเงียบมาก ฝนตกหนักข้างนอกผมอยู่ในห้องยังไม่ได้ยินอะ ส่วนที่แปลกๆหน่อย คือรีโมตแอร์แสดงเป็นองศาฟาเรนไฮต์ คือปกติทั่วไปจะใช้องศาเซลเซียส 25 26 27 ว่าไป อันนี้ขึ้น 66 มันกี่องศาละเนี่ย ก็ต้องเปิดโทรศัพท์เพื่อแปลงค่า รวมๆแล้วเยี่ยมเลย

สัมภาษณ์งาน

วันที่ 8 มิถุนายน 2561

วันนี้ผมตื่นประมาณ 5:40 อาบน้ำแต่งตัวกินขนมปังที่ซื้อเตรียมไว้ นั่งดูทีวีชิลๆ แล้วก็นึกคำพูดแนะนำตัว ผมคิดว่าตัวเองเป็นพวกพูดไม่ค่อยรู้เรื่องกลัวจะไปพูดแล้วกรรมการไม่เข้าใจ ประมาณ 6:50 ก็ออกจากห้องพัก ผมไม่ได้ checkout นะ เพราะคิดว่าคงสัมภาษณ์เสร็จเร็ว ยิ่งผมสัมภาษณ์คนที่สองด้วย น่าจะเสร็จไวไม่เกิน 9 โมง เลยคิดว่าจะกลับมาอาบน้ำชิลๆ

จากนั้นก็เดินไปที่ กฟภ. ไปตึกที่ผมสัมภาษณ์ ตึกชื่อว่า LED ตึกใหญ่เลย

ขึ้นไปที่ชั้นที่สัมภาษณ์ ดูเหมือนผมจะมาคนแรกๆ คนยังไม่เยอะก็นั่งรออ และคนก็ทยอยมาเรื่อยๆ จนถึงเวลา 7 โมงนิดๆ พี่พนักงานก็เรียกมาตรวจเอกสารเซ็นชื่อ เอกสารก็มีพวกสำเนาบัตรประชาชน สำเนา สด.8 สำเนา toeic สำเนาใบปริญญาบัตร สำเนาทรานสคริป เซ็นสำเนาถูกต้องด้วยนะ จากนั้นก็จะเรียกเข้าห้องประชุม ซึ่งก็จะมีพี่พนักงานคนนึงมาอธิบายขั้นตอนเกี่ยวกับการตรวจประวัติอาชญากรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องตรวจภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2561 เท่านั้น ซึ่งกำหนดการส่วนนี้ไม่มีเขียนไว้ในประกาศ  และแน่นอนว่าทำให้มันไม่อยู่ในแผนของผม พอดูจากกำหนดวันที่แล้วแสดงว่าผมต้องไปตรวจวันนี้เพราะไม่อย่างนั้นผมต้องมา กทม อีก เดี๋ยวจะเปลืองเงิน และต้องเสร็จภายใน 3 โมงเย็นวันนี้ด้วยเพราะเครื่องกลับลำปางออก 5 โมง หรือถ้าตรวจไม่ทันวันนี้ก็ต้องทิ้งตั๋วบินขากลับ ไปนั่งรถไฟ หรือรถทัวกลับแทน ความคิดจะกลับไปอาบน้ำ นอนชิลๆไม่ได้แล้วสินะ ยังไม่พอ พี่พนักงานบอกว่าให้เราไปปริ้นใบส่งตัวกันเอาเอง ก็คือต้องไปร้านปริ้นงานแล้วเปิดลิงค์เพื่อปริ้น จากนั้นต้องเอาใบนี้ไปยื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งพี่เขาก็ให้ link กับ QR code มา นั่นเอง และยังบอกด้วยว่าแถวๆสำนักงานตำรวจมีร้านปริ้นให้ไปลองหาดูนะ คำถามที่ผมสงสัยคือ ใบส่งตัวมีแค่ 2 แผ่นต่อผู้สมัครหนึ่งคน ทำไม กฟภ. ไม่ปริ้นมาให้ผู้สมัครเลยหว่า

พอพี่เขาพูดเสร็จ จากนั้นก็เรียกเข้าสัมภาษณ์เลย ผมสัมภาษณ์คนที่สอง แทบไม่ได้ตั้งหลัก ไปนั่งรอหน้าห้องประชุมอีกห้องนึง ตื่นเต้นมาก อะไรนะที่เตรียมจะมาพูด อ่าวลืม คนแรกเข้าไปประมาณ 10 นาทีก็ออกมา เวลาไวมาก ยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนที่เข้าไปเลย จากนั้นก็ถึงคิวของผม พี่คนนึงก็มาเรียกชื่อให้เข้าไป พอเข้าไปในห้องประชุม กรรมการในห้องมี 4 คน เป็นผู้ชาย 3 คนดูมีอายุแล้ว อีก 1 คนเป็นผู้หญิงยังสาวอยู่ ที่หน้าจอโปรเจคเตอร์แสดงข้อมูลต่างๆของเราที่เรากรอกไว้ตอนสมัคร กรรมการเริ่มต้นด้วยการบอกให้เราแนะนำตัว 3 นาที ผมเล่าประวัติการศึกษา และประวัติการทำงานของผมให้กรรมการฟัง ซึ่งประสบการณ์การทำงานของผมส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาแอปด้วยตัวคนเดียว แอปของผมเองทั้งหมด ผมพูดถึงแอปต่างๆของผม ทั้ง Wallet Story , Crypto Story , BX , แอปอื่นๆที่เคยทำ สรุปคือผลงานของผมนั่นแหละ (ถ้าใครอ่านบล็อกมาบ้างผมก็น่าจะรู้จัก) ซึ่งผมเตรียมตัวมาว่าจะเล่าเรื่องว่าประมาณนี้ แต่ไม่ได้เตรียมรายละเอียดมาเป๊ะๆ มันเลยใหลยาว มีเรื่องให้พูดเยอะไปหมด ไม่รู้เกิน 3 นาทีหรือป่าว ก็พูดไปเรื่อยๆ กรรมการดูสนใจและก็ถามรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผมก็พยายามอธิบายว่าเป็นอย่างไร และพยายามตอบคำถามให้ดีที่สุด ช่วงแรกผมมีพูดติดขัดบ้างเพราะตื่นเต้น ในที่สุดก็มาเจอคำถามที่ยากคำถามหนึ่ง คือ กรรมการให้ลองเสนอไอเดียทำแอปอะไรก็ได้เกี่ยวกับธุรกิจด้านอื่นๆของ กฟภ. ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง คือ ผมได้ยินคำว่าธุรกิจด้านอื่นๆผมก็เข้าใจว่า น่าจะหมายถึงธุรกิจที่ไม่ใช่ขายไฟฟ้าครัวเรือน ผมเลยเสนอไอเดียธุรกิจด้านรถยนต์ไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้า ซึ่งในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่น กฟภ. สามารถเป็นผู้นำด้านการให้บริการสถานีรถยนต์ไฟฟ้าได้ คล้ายๆปั้มน้ำมันในปัจจุบัน ซึ่งแอปก็สามารถมีส่วนเข้ามาช่วยในธุรกิจนี้ได้แน่นอน ไม่รู้คิดมาได้ไง เหมือนจะมั่วแต่ก็มั่วแบบมีหลักการ ซึ่งกรรมการก็ดูงงๆอยู่บ้างๆ แต่เหมือนกรรมการดูจะมีคำตอบในใจอยู่ ซึ่งเขาคาดว่าผมน่าจะตอบอันที่เขาคิดมากกว่า โดยกรรมการพูดถึงแอปที่สามารถ track จุดที่ไฟดับ หรือแจ้งไฟดับได้ ซึ่งจริงๆผมคิดว่ามันมีอยู่แล้วในแอป PEA ซึ่งผมก็พลาดที่ไม่เคยใช้แอป PEA แต่ตอนที่ผมเดินเข้ามาในตึกมันมีป้ายโฆษณาแอป PEA แล้วก็เขียนฟังชันก์ด้วยว่าแจ้งพิกัดไฟดับอะไรประมาณนั้น แต่กรรมการยืนยันว่าแอปยังไม่มีฟังชันก์ดังกล่าว จากนั้นเราก็คุยกันต่อ ซึ่งคำถามส่วนใหญ่กรรมการยังคงสงสัยในความสามารถและผลงานที่ผมเล่ามาตอนต้น โดยเฉพาะเรื่อง Cryptocurremcy จึงพยายามถามในรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งผมก็ชอบมากเพราะดีกว่าต้องไปตอบคำถามพวก ทำไมเราควรรับคุณเข้าทำงาน คุณดีกว่าผู้สมัครท่านอื่นอย่างไร ช่วยบอกข้อดีข้อเสียของคุณ โชคดีที่ไม่เจอคำถามคลาสสิคแบบนั้น สุดท้ายกรรมการให้เราพูดเกี่ยวกับตัวเราเองอีก 1-2 นาที เผื่อเขาจะเพิ่มคะแนนให้ ผมก็เลยพูดถึงผลงานอื่นๆของผม คือ การทำเกมจับคู่คุณแม่ใน windows 10 ซึ่งเป็นเกมที่ทำมาให้คุณแม่ผมเล่นแทนจับคู่โปรเกมอนเดิมที่ตอนนี้เล่นใน windows10 ไม่ได้ พอกรรมการฟังแล้ว กรรมการก็หัวเราะกัน แล้วผมก็ยังแนะนำเว็บไซต์และบล็อกส่วนตัวอีกด้วย โดยทุกอย่างที่ผมเล่าให้กรรมการฟังผมเขียนไว้ในบล็อกทั้งหมด หากสนใจหรือสงสัยสามารถเข้าไปอ่านได้เลย และผมก็อธิบายว่าผมเขียนบล็อกเพื่อเป็นไดอารี่บันทึกเรื่องราวรวมทั้งแชร์ความรู้ต่างๆนั่นเอง จากนั้นกรรมการก็บอกว่าหมดเวลาแล้ว ขอบคุณที่มาสัมภาษณ์กับเรา จบการสัมภาษณ์เพียงเท่านี้ ผมยิ้มให้กรรมการและไหว้สวัสดีก่อนเดินออกจากห้องสัมภาษณ์

ตรวจประวัติอาชญากร

จบการสัมภาษณ์ ก่อนออกจากประตูห้องสัมภาษณ์ พี่พนักงงานบอกว่าห้ามพูดกับใครให้ออกจากตึกทันที และถ้าวันนี้ว่างให้ไปตรวจลายนิ้วมือด้วยนะ พอออกจากห้อง ผมเลยส่งยิ้มให้ผู้สมัครที่จะสัมภาษณ์ต่อผมที่เป็นผู้หญิงใส่แว่น อิอิ ตอนนี้ออกมาแล้วก็โล่งใจ เป็นการสัมภาษณ์ที่ผมตื่นเต้นมาก สัมภาษณ์เสร็จเวลาประมาณ 8:40 ผมค่อนข้างร้อนใจเรื่องตรวจลายนิ้วมือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างเดินไปโณงแรมก็แวะร้านกาแฟร้านนึง ซื้อชาเขียวแล้วถามพนักงงานว่ามีร้านปริ้นงานมัย เขาก็บอกว่ามีอยู่ซอย 53 ผมเดินไปที่ซอย 53 แต่ก็หาร้านไม่เจอ เลยกลับไปที่โรงแรม checkout ก่อน ผมถามพนักงานโรงแรมว่าแถวนี้มีร้านปริ้นงานมัย เขาก็ตอบว่าไม่มี โอเค สงสัยเราต้องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วละ ซึ่งตรงข้ามคือ siam quare one อาจจะมีร้านก็ได้ ตามคำแนะนำของพี่ที่ กฟภ. ผมนั่ง taxi ไปถึงที่นั่น ระหว่างทางผมได้ถาม taxi เกี่ยวกับร้านปริ้นงานเขาบอกว่าลองหาแถว สยามสแคว ปัญหาคือตอนนี้ฝนตกมาก รถก็ติด พอผมลงที่ siam square ผมต้องหาเซเว่นเพื่อซื้อร่มก่อน พอได้ร่มแล้วก็เดินหาร้าน ฝนก็ตกหนักขึ้น ผมเดินหาอยู่นาน ถามคนนั้นคนนี้ ก็ไม่รู้ จนมีน้องนักเรียนหญิงกลุ่มนึงเดินมา ได้ความว่าลองไปหาที่ศูนย์หนังสือจุฬา ผมเดินไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาซึ่งไม่ไกล ตอนนี้ฝนตกหนักมากขึ้น แต่ผมต้องแข่งกับเวลารอฝนหยุดไม่ได้ ผมเดินต่อไป เข้าไปในศูนย์หนังสือจุฬา คุยกับคุณป้าคนนึงที่เคาเตอร์ แกบอกว่าที่นี่ไม่มีนะ ต้องร้านที่ข้าง s&p โน้นอะ อยู่ฝั่งโน้น จากนั้นพอผมเดินออกมา ก็เจอป้ายร้าน s&p อยู่ไม่ไกล เลยเดินไปร้าน s&p เดินดูทั้งซอยก็ไม่เห็นมีร้านปริ้นงานถ่ายเอกสารเลยแหะ ตอนนี้เริ่มเหนื่อยละ ฝนตกทำให้เซงมากๆ เจอนักเรียนอีกกลุ่ม ผมถามพวกเขา ได้คำตอบว่าที่ใต้ศูนย์หนังสือจุฬามีอยู่ชั้นใต้ดิน มีร้านอยู่ที่นั้น โอเค ผมเลยกลับไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาเพื่อไปชั้นใต้ดิน แต่ปรากฏว่าชั้นใต้ดินปิดปรับปรุง คนต่อไปที่ผมจะถามคือลุงคนนึงยืนอยู่ข้างศูนย์หนังสือ ลุงคนนี้คือคนที่ช่วยผมหาร้านจนเจอ ลุงบอกว่ามีร้านนึงอยู่ซอย 11 ข้างๆร้าน s&p แกย้ำว่าซอย 11 นะหนุ่ม เดินเลี้ยวซ้ายไป ผมก็เลยเดินไปตามป้ายซอย จนถึงซอย 11 จนเจอร้านถ่ายเอกสาร ปริ้นงานในที่สุด ซึ่งจากคำบอกทางของป้าที่ศูนย์หนังสือก็ถูกต้องที่บอกว่าข้างร้าน s&p แต่มันกำกวม คือมันมีร้าน s&p อยู่ 2 ที่ คนละซอยนั่นเอง ตอนนี้ผมเจอร้านปริ้นงานแล้ว ก็จัดการปริ้นอย่างรวดเร็ว 4 แผ่น ใช้ 1 ชุด สำรอง 1 ชุด ราคา 9 บาท (แผ่นละบาท ค่าเน็ต 5 บาท)

ตอนนี้้ได้เวลาไปตรวจลายนิ้วมือแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ใกล้ๆนี่เอง เดินข้ามสะพานลอยไปก็ถึงละ แล้วผมก็เดินไปที่ตึกตรวจประวัติอาชญากรเพื่อตรวจลายนิ้วมือ สิ่งที่ผมเจอคือ คนโครตเยอะ !!!!

เห็นแล้วเหนื่อยใจเลย ตอนนี้เวลา 11:50 น่าจะยังทันเครื่องบินขากลับอยู่นะ ผมก็ไปต่อคิวซึ่งแถวโครตยาว ก่อนอื่นต้องเอาเอกสารใบส่งตัวไปตรวจ ตรวจเสร็จก็รอเรียกชื่อซึ่งนานมากกินเวลาเกือบชั่วโมง ที่ช้าเพราะมีพนักงานแค่สองคนในการพิมพ์ข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งคนที่มาตรวจมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ชาวต่างชาติจะช้าหน่อยเพราะมันต้องพิมพ์ ของคนไทยบัตรจะมีชิพก็อาจจะเร็วหน่อย แต่สรุปคือช้า ตรงนี้ผมได้เจอผู้สมัครผู้หญิงที่สัมภาษณ์ต่อจากผที่เจอมก่อนหน้านี้ด้วย เราได้คุยกันนิดหน่อย เธอบอกว่าพอตอบคำถามได้ ไม่ทันได้คุยพนักงานตำรวจก็เรียกชื่อผมให้ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียม 100 บาท จ่ายเงินเสร็จก็ไปกดบัตรคิวรอตรวจลายนิ้วมือ คิวที่ผมรอคือ 80 คิว นั่งรอวนไปฮะ สุดท้ายก็ได้ตรวจลายนิ้วมือจนได้ ที่นี่ไม่ได้ปั้มนิ้วบนสีนะ อันนี้เป็นการสแกนแบบดิจิตัลแล้ว สแกนทุกนิ้วเลย กว่าจะเสร็จตอนนี้บ่ายสองโมง ต้องไปสนามบินดอนเมืองแล้วละ ผมก็ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้น Taxi ไปสนามบินเลย คนขับแท็กซี่เป็นคุณลุงคนนึง เราคุยกันถึงเรื่องที่ผมมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ผมทราบว่า ที่คนเยอะเพราะกรมขนส่งเขามีนโยบายให้คนที่มีใบขับขี่สาธารณะ เช่น วิน แท็กซี่ มาตรวจประวัติทุกๆ 3 ปี ซึ่งลุงแกก็ยังไม่ได้ตรวจ ดังนั้นๆทุกๆ 3 ปี ก็จะเจอคนเยอะจนล้นตึกแบบนี้แหละ ลุงแกบอก และแกก็บ่นเรื่องรัฐบาล กับข่าวที่ ผอ. โกงอาหารกลางวันเด็กไปตลอดทาง

เดินทางกลับบ้าน

ถึงสนามบินแล้ว ตอนนี้ผมหิวมากๆเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย ก็เลยเดินหาอะไรกิน สุดท้ายก็เข้าไปกิน Macdonald

รอเวลาหลายชั่วโมงกว่าก็ได้ขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้ว ถึงลำปาง 19:00 พอดี น้ากับพี่ชายมารับ จากนั้นเราก็ไปกินซีฟู๊ดกัน

ผลสัมภาษณ์

ประมาณ 2 อาทิตย์ถัดมา วันที่ 21 มิถุนายน 2561 ก็ประกาศผลการสัมภาษณ์ ผลคือผมผ่านการคัดเลือก กำหนดการถัดไปคือต้องไปรายงานตัวในวันที่ 27 มิถุนายน 2561 ดังนั้นบล็อกนี้ขอจบเท่านี้ก่อนบล็อกหน้าจะมาอัพเดทการเดินทางไปรายงานตัว

จบแล้ว

นี่ก็เป็นทริปสอบสัมภาษณ์ กฟภ. 2561 ของผม สรุปการสัมภาษณ์ที่เจอ คือส่วนใหญ่จะเป็นคำถามในสิ่งที่เราเล่าให้กรรมการฟังตอนแนะนำตัว ลักษณะให้อธิบายละเอียดต่างๆ แล้วก็ให้เราลองเสนอไอเดียโน้นนี่นั่น ซึ่งผมชอบการสัมภาษณ์ด้วยคำถามแบบนี้นะ อาจจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและกรรมการด้วย หวังว่าบล็อกนี้จะมีประโยชน์นะครับ

ต่อไป คือการเดินทางไปรายงานตัวครับ

บันทึกการไปรายงานตัว กฟภ. 2561 สำนักงานใหญ่