บันทึกการไปรายงานตัว กฟภ. 2561 สำนักงานใหญ่ ตอนที่ 2
สวัสดีครับ บล็อกนี้เป็นบันทึกการเดินทางไปส่งเอกสารที่ กฟภ. ของผมเอง โดยกำหนดการคือส่งเอกสารทั้งหมด วันที่ 16 ก.ค. 2561 โดยแบ่งเป็นรอบเช้ากับบ่าย ผมได้รอบเช้าครับ พี่พนักงานบอกว่ามากี่โมงก็ได้ระหว่าง 8:30-11:30 โดยผมได้อยู่ที่หอพัก ใกล้ๆกับ กฟภ อยู่แล้วก็เลยไม่ต้องเดินทางให้ยุ่งยาก
ตอนก่อนหน้านี้
ยื่นตรวจเอกสารที่ กฟภ.
วันที่ 16 ก.ค. 2561
ผมตื่นประมาณ 7:30 ทำธุระประจำตัวเสร็จก็แต่งตัวเลย ประมาณ 8:45 ก็ออกจากห้อง เดินไปที่ กฟภ. เลย โดยที่นัดไว้คือ ชั้น 6 ตึก LED โดยพี่ยามในตึกถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกว่ามาส่งเอกสารพนักงานใหม่ ที่ชั้น 6 พี่ยามก็บอกว่าต้องไปขึ้นลิฟท์อีกตัวนึงที่อยู่หน้าโรงอาหาร ผมจึงเดินไปขึ้นลิฟท์ตัวนั้น ซึ่งที่ชั้น 6 จะเป็นห้องโรงยิม ในห้องมีโต๊ะสำหรับจุดลงทะเบียน จุดติดกาวรูปภาพ แล้วก็มีแถวให้นั่งรอ ตอนนี้ไม่ถึง 9:00 คนมาเยอะแล้วเหมือนกัน ผมก็ไปลงทะเบียนติดรูป จากนั้นก็มานั่งรอ มีคิวตรวจเอกสารก่อนหน้าผมไม่ต่ำกว่า 10 คน คุณลุงพนักงานคนนึงบอกว่า แถวด้านหลังใครยังไม่ได้ทานข้าวเช้าลงไปทานได้เลยนะ มันอีกนาน ผมก็เลยลงวางกระเป๋าจองที่ไว้ แล้วไปทานข้าวก่อน
ไปที่โรงอาหารชั้น 1 ตอนนี้ไม่มีคนเลย นั่งกินสบายๆ ผมสั่งราดหน้าเคยกินแล้วมันอร่อยดี 30 บาท กับกาแฟเย็นที่ยังไม่เคยชิม 10 บาท
กินเสร็จแล้วก็กลับขึ้นไปที่ชั้น 6 อีกครั้ง นั่งรอ รอไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อน ผญ คนนึง ที่วันนี้ต้องบินกลับอุบลตอน 18:50 ซึ่งผมก็ต้องบินกลับลำปาง 18:45 จริงๆเวลามัน 17:45 แต่มันเลื่อนมา 1 ชม เราก็เลยตกลงกันไว้ว่าจะไปสนามบินดอนเมืองด้วยกัน นั่งรออยู่นาน จนเที่ยงวัน คุณลุงพนักงานก็บอกว่าใครยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงไปทานเลยนะ ผมก็เลยลงไปทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร แต่รอบนี้เป็นครั้งที่ไม่ได้กินคนเดียว ที่โรงอาหารคนเยอะมาก เราเลยไปนั่งทานที่ชั้นสอง ซึ่งผมเพิ่งเคยขึ้นมาที่ชั้นสองของโรงอาหารนะเนี่ย โดยผมทานเป็นข้าวมันไก่ต้มไก่ทอด 40 บาท
กินเสร็จก็กลับไปนั่งรอ เราคุยกันว่าทำไมมันนาน มันช้าแปลกๆ เพราะมันมีรอบบ่ายด้วยไม่ใช่หรอ นี่ขนาดผมรอบเช้ามาตั้งแต่ 9:00 ตอนนี้เที่ยงแล้วยังไม่เสร็จเลย แล้วคนรอบบ่ายมาจะเสร็จกี่โมงเนี่ย ขึ้นไปที่ชั้น 6 นั่งรอ แถวแทบไม่ขยับเลย เหมือนว่าตอนเช้าจะมีพี่พนักงานพิมพ์ข้อมูล 2 คน คอม 2 เครื่อง ตอนนี้มีเพิ่มคอมมาอีก 2 เครื่อง แล้วก็ดูเหมือนว่า คอมพิวเตอร์กับเครื่องปริ้นมีปัญหา รวมถึงการพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกด้วย เพราะว่าต้องพิมพ์เป็นหนังสือสัญญาไปให้คนค้ำเซ็นนั่นเอง
ผมนั่งรอกับเพื่อนไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็เวลาเข้าไป บ่าย 3 โมงแล้วกว่าแล้วผมก็ยังไม่ได้ตรวจ มันช้าเกินกว่าที่ผมคิดไว้มาก เพราะผมต้องขึ้นเครื่อง เริ่มรู้สึกร้อนใจจะขอลัดคิวดีไหม แต่คิดว่าคิวใกล้จะถึงแล้วก็เลยรอ เวลาประมาณเกือบ 3 โมงครึ่งผมได้ตรวจเอกสาร พี่เขาก็ดูเอกสารแล้วก็พิมพ์เอกสารคนค้ำที่เราเตรียมมา โดยของผมมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อใบรับรองเงินเดือนของคนค้ำคนนึงดันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็วันที่ออกดันเป็นวันที่ก่อนรายงานตัว พี่เขาบอกว่าต้องไปขอใหม่อันนี้ใช้ไม่ได้ แต่ว่าก็ต้องพิมพ์ข้อมูล พวกตำแหน่ง ฝ่าย กองของคนค้ำ แต่ว่าใบรับรองดันเป็นภาษาอังกฤษทำให้พิมพ์ข้อมูลในหนังสือสัญญาไม่ได้ จนผมต้องโทรไปถามแม่ (ตอนนั้นแบตมือถือเหลือ 2% อีกต่างหาก) ไปๆมาๆผมก็ให้คุณแม่คุยกับพี่เขาซะเลย จนทุกอย่างเรียบร้อย ผมต้องไปเอาหนังสือรับรองเงินเดือนของคนค้ำมาใหม่ ตรวจเสร็จก็ต้องไปอีกโต๊ะหนึ่งที่จะมาป้าพนักงงานคนนึงคอยดูเอกสาร เรียงเอกสารของเรา สรุปวันนี้เอกสารทั้งหมดอยู่ที่เรา สิ่งได้เพิ่มมาคือใบสัญญาให้คนค้ำเซ็น กว่าผมจะเสร็จก็เกือบ 5 โมงเย็น ซึ่งผมก็ร้อนใจเรื่องเครื่องบินขากลับ แต่ว่าผมสัญญากับเพื่อน ผญ คนนั้นไว้ว่าเราจะไปด้วยกัน ผมตัดสินใจรอ 15 นาที ผมออกไปรอด้านนอกโรงยิม พบว่าฝนตก ถ้าฝนตกรถก็จะติดน่ะสิ ยิ่งร้อนใจไปอีก ดูท่าทีก็ไม่เสร็จสักที หลังจาก 15 นาที ผมก็เลยตัดสินใจ ออกจาก กฟภ.
เดินทางกลับ
ขึ้นแท็กซี่จาก กฟภ. ไปสนามบินดอนเมือง รถติดช่วงหน้า กฟภ. นิดหน่อย แต่พอพ้นขึ้นโทลเวร์ เสีย 70 บาท รถก็โล่ง ไม่นานก็ถึงสนามบิน ผมก็เช็คอินแต่ก็ยังมีเวลาเหลืออยู่มากพอสมควร หวังว่าเพื่อนผญ คนนั้นจะไม่ตกเครื่องนะ แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ไม่รอ ถ้ารออีกสัก 10 นาทีก็อาจจะได้มาด้วยกัน แล้วผมก็กลับถึงลำปางประมาณ 20:00
พอกลับถึงบ้านก็ได้สอบถามไปยังเพื่อนคนนึงที่เขาได้นัดรอบบ่าย ถามว่าเสร็จกี่โมง ได้ความว่าเสร็จ 19:45 คือ ที่มันช้าไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันก็ช้าจริงๆ มันไม่ควรเกินเวลามาขนาดนี้ แต่พี่พนักงานเขาก็ทำงานกันหนักแหละนะ สิ่งที่ผมเห็นชัดเจนเลยคือ คนทำงานน้อยเกินไป พอมีปัญหาคนนึงมันเลยเหมือนคอขวดละมั้งนะ แล้วเรื่องพิมพ์สัญญาคนค้ำมันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนด้วยละ
เดินทางไปส่งเอกสาร
วันที่ 19 ก.ค. 2561
ตอนนี้ผมได้ใบรับรองเงินเดือนของคนค้ำที่ไม่ผ่านก่อนหน้านี้มาแล้ว แล้วก็ให้คนค้ำเซ็นเรียบร้อย ผมเดินทางขึ้นเครื่องที่ลำปาง 14:45 เครื่องดีเลย์นิดหน่อย ไปถึงที่หอ กฟภ. ก็ประมาณ 5 โมงเย็น วันนี้ก็กินข้าว นอนหลับ พรุ่งนี้มีภารกิจไปส่งเอกสาร เย้
วันที่ 20 ก.ค. 2561
วันนี้สบายๆ เพราะไม่มีนัดเวลาตายตัว ผมไปประมาณ 9:30 เดินไปพร้อมกับเอกสารต่างๆที่ต้องส่ง โดยขึ้นไปที่ตึก LED ไปที่ชั้น 16 แผนกสรรหาบุคลากร พอเข้าไปก็บอกพี่เขาว่า “มาส่งเอกสารพนักงานใหม่ครับ” เขาก็ให้นั่งรอตามคิว พี่เขาบอกว่าต้องรอคิวซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไปกินข้าวก่อนได้นะ ก็เลยลงไปทานข้าว โดยไปกับผู้ชายคนนึง คนที่มารอคิวด้วยกัน เพิ่งรู้จักกันก็ได้คุยกันได้ความว่าตำแหน่งวิศวไฟฟ้า เราก็ลงไปทานข้าวด้วยกัน เสร็จแล้วก็ขึ้นมารอคิวต่อ ไม่นานพี่เขาก็เรียกผมเข้าไปแจ้งว่าผมไม่ได้แนบรูปถ่ายมาด้วยทั้งๆที่ผมมั่นใจว่าแนบไปแล้ว ก็เลยหากันทั้งโต๊ะ คุณป้าที่ตรวจเอกสารก็ถามย้ำว่าผมแนบมาจริงแน่นะ ผมก็ยืนยันว่าแนบมาชัวๆ เลยหากันอยู่นาน สุดท้ายก็เจอเพราะดันมีพี่คนนึงมาเอาของแล้วหยิบรูปผมไปไว้ที่อื่นซะงั้น จากนั้นก็จะให้เราไปที่แผนกที่เราต้องทำงานไปให้หัวหน้าเราเซ็นในเอกสาร ผมก็เดินไปที่ห้องที่ผมต้องทำงาน ซึ่งอยู่ชั้น 6
ไปถึงที่ชั้น 6 ก็เจอพี่คนนึงเลยเดินถามว่า แผนกนี้ ฝ่ายนี้ อยู่ห้องไหนครับ พี่เขาก็พาผมเข้าไป ซึ่งพอเข้าไปในห้องก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงที่เป็นหัวหน้าผม รออยู่แล้ว (แผนกบุคคลโทรมาแจ้งก่อนแล้วมั้ง) ผมรู้สึกถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยพี่หัวหน้าแนะนำพี่ๆทุกคนให้ผมรู้จัก ทุกคนดูเฮฮามาก แล้วก็มีถามผมนิดหน่อย ทำงานอะไรมา จบไหนมา นิสัยเป็นยังไง เป็นคนที่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไร บลาๆ ก็เปิดดูประวัติจากเอกสารที่ผมถือมานั่นเอง หัวหน้าก็ติเรื่องตัวหนังสือผมไม่สวยเลย (ผมยอมรับว่าแย่จริง 5555) แล้วก็พาผมไปดูโต๊ะทำงาน พร้อมเล่างานที่ต้องรับผิดชอบคร่าวๆ ซึ่งเหมือนว่าผมจะได้ทำงานโดยเขียนภาษา C# หรือทำโปรแกรมอะไรสักอย่าง แล้วก็มีแนะนำสิ่งต่างๆ เช่น วันที่เรามาทำงาน เราก็เซ็นชื่อที่แฟ้มสีแดงนะ ทำงาน 8:30 ผมคุยกับทุกคนอยู่นานพอสมควร หลังจากหัวหน้าเซ็นเรียบร้อยก็กลับไปส่งเอกสารที่แผนกบุคคลเป็นอันจบภารกิจของวันนี้
จากนั้นก็ไปกินข้าวที่โรงอาหารได้เจอเพื่อนคนนึงที่ผมได้รู้จักจากที่เธอเพิ่งเข่างานเหมือนกัน แล้วได้อ่านบล็อกนี้แล้วทักมาทางอีเมล กินข้าวเสร็จก็เลยไปเดินตลาด กฟภ. ด้วยกัน ผมเพิ่งเคยมาตลาดด้านหลังนี้ครั้งแรก มีร้านขายของกิน ของใช้เยอะมากเหมือนตลาดนัดเลยละ
เสร็จแล้วตอนนี้ก็ประมาณเที่ยงครึ่ง ผมก็ไม่รู้จะไปไหน จะกลับหอก็ร้อน ขึ้นเครื่องกลับก็โน้น 1 ทุ่ม ก็เลย นั่งตากแอร์ในตึกก่อนละกัน สักบ่ายสองค่อยกลับหอ ก็เลยถือโอกาสลองชิมกาแฟร้านในตึก เป็นกาแฟของร้านดอยช้าง ราคาประมาณ 45-65 บาท ผมลองลาเต้เย็น 55 บาท ก็อร่อยดีนะ
เดินทางกลับ
นั่งเล่นที่ตึก กฟภ. จนถึงบ่ายสองก็เดินกลับหอ อาบน้ำ เก็บของ เตรียมตัวกลับบ้าน ซึ่งสบายมากเลยวันนี้ เหมือนว่าเรื่องเอกสารจะเคลียหมดแล้วสินะ
สรุปค่าใช้จ่าย
มาสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการนี้ ที่ผมใช้หมดไปอย่างฟุ่มเฟื่อยหน่อย โดยจะลองสรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางของผม (ด้วยเครื่องบิน ลำปาง-ดอนเมือง) + ค่าที่พักโรงแรมตั้งแต่ตอนสอบจนถึงย้ายมาทำงานนะครับ ที่ผมเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินเพราะมันก็คุ้มเมื่อแลกกับไม่ต้องพบกับความเหนื่อยล้าในการเดินทางจากลำปางมา กทม เทียบกับรถไฟ รถทัว ที่ต้องเดินทางเกือบ 10 ชม ในขณะที่เครื่องบินแค่ 1 ชม เท่านั้น ซึ่งตั๋วเครื่องบินก็พยายามจองล่วงหน้านานที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว
สอบข้อเขียน (28-30 เม.ย. 2561)
ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) 2,708.74 บาท
ค่าแท็กซี่ (ไป-กลับสนามบิน) 200 บาท
ค่าที่พักโรงแรม Iya 2 คืน 2,200 บาท
สอบสัมภาษณ์ (7-8 มิ.ย. 2561)
ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) 3,657.67 บาท
ค่าแท็กซี่ (ไป-กลับสนามบิน) 200 บาท
ค่าที่พักโรงแรม Siam Paradise 1 คืน 850 บาท
รายงานตัว (26-28 มิ.ย. 2561)
ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) 3,657.93 บาท
ค่าแท็กซี่ (ไป-กลับสนามบิน) 200 บาท
ค่าที่พักโรงแรม Siam Paradise 2 คืน 1,723 บาท
ยื่นเอกสาร (13-16 ก.ค. 2561)
ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) 3,283.82 บาท
ค่าแท็กซี่ (ไป-กลับสนามบิน) 270 บาท (ขากลับรีบกลับ เลยเสียค่าโทรเว 70 บาท)
นอนหอแล้ว
เอาเอกสารคนค้ำไปส่ง (19-20 ก.ค. 2561)
ค่าเดินทาง (ไป-กลับ) 3,483.77 บาท
ค่าแท็กซี่ (ไป-กลับสนามบิน) 200 บาท
นอนหอแล้ว
กลับไปทำงานยาวๆ (31 ก.ค. 2561)
ค่าเดินทาง (ไปดอนเมือง) 2,128.98 บาท
ค่าแท็กซี่ (จากสนามบิน ไปหอ) 100 บาท
รวม 24,863.91 บาท
เงินที่ใช้ไปส่วนใหญ่เป็นเงินที่ผมเก็บไว้จากรายได้แอปของผมเอง และมีเงินจากคุณพ่อ 5,000 บาท
การเดินทางครั้งถัดไป 31 ก.ค. 2561 เพื่อไปอยู่หอ ทำงานยาวๆ คิดว่าบล็อกหน้าจะเขียนบันทึกการทำงานวันแรกหรือเดือนแรกที่ กฟภ. อะนะ ไม่รู้จะได้ทำอะไรบ้าง