สวัสดีครับ บทความนี้เป็นบันทึกการเดินทางและท่องเที่ยวของผม ทริปนี้เป็นทริปที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับที่ทำงานครั้งแรก โดยเราจะไปกันทั้งฝ่าย ประมาณ 30-40 คน ซึ่งจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย คือ การปลูกประการัง กำหนดการคือวันที่ 3 พ.ย. 2561 ช่วงสายๆ เราเลยจะเดินทางไปในวันที่ 2 ช่วงเย็น ถึงที่พักก็คงช่วงค่ำๆ แล้วนอน 2 คืน จากนั้นก็กลับ

วันที่ 2 พ.ย. 2561

ออกเดินทาง

พอดีวันนี้ทั้งวันผมมีอบรมที่ Software Park แถวๆแจ้งวัฒนะ อบรมเสร็จก็นัดพี่ๆ แล้วออกเดินทางจกันจากที่นั่น ประมาณ 16:30 เดินทางด้วยรถส่วนตัว

ประมาณ 18:00 ก็แวะจุดพักรถมอเตอร์เวย์ชลบุรี

อาหารเย็นวันนี้ เราเข้าร้าน Burger King

ผมจัดเบอเก้อปลา เฟรนฟราย โค้ก เซ็ตนี้ 150 บาท จากนั้นก็มากินในรถ

ถึงที่พัก

ประมาณ 19:30 ก็ถึงที่พัก เป็นรีสอร์ทชื่อว่า “ประภาคารรีสอร์ท 2” โดยห้องที่จองไว้ จะมีบันใดอยู่ด้านในห้อง นอนได้ชั้นละ 6 คน ผมนอนชั้นล่างเตียงตรงกลาง

ในห้องมีห้องน้ำ 3 ห้อง สะอาดมีที่กั้นอาบน้ำ น้ำใหลแรง มีเครื่องทำน้ำอุ่น

แล้ววันนี้ก็มีปาตี้ ปิ้ง กุ้ง ปู หอยกินกัน มีร้องคาราโอเกะ กันอย่างสนุกสนาน

กุ้งอร่อยมาก

เนื่องจากผมกินเบอเก้อมาตอนเย็นแล้วก็เลยไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แถมผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล กินเสร็จก็เลยอาบน้ำเข้านอนก่อนเลยครับ  พอเข้านอนก็พบว่าพี่ที่นอนเตียงเดียวกับผมเขาไม่ได้มาเนื่องจากป่วย ทำให้เตียงผม ผมนอนคนเดียว สบายเลย

วันที่ 3 พ.ย. 2561

เริ่มต้น

ตื่นเช้ามา ก็อาบน้ำ แต่งตัว สำรวจที่พักซะหน่อย เพราะเมื่อวานมามาตอนที่มืดแล้ว ตึกที่นอนของผมคืออาคารด้านซ้ายอันแรกจากถนน จริงๆอาคารมี 3 ชั้น ชั้น 1-2 ใช้บันไดด้านในห้อง ส่วนชั้น 3 ต้องขึ้นบันไดด้านนอก

หน้าห้อง มีพวกโต๊ะ เก้าอี้นั่ง

เดินไปด้านหลัง ซึ่งติดทะเล เป็นทะเลที่ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะมีขยะอยู่เกลื่อนเลย

อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม อันนี้ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้

กินเสร็จก็เดินออกมาจากที่พัก ด้านหน้าเดินออกมาประมาณ 50 เมตร จะเป็นตลาด มีร้านชากาแฟ

ชาเบตง แก้วละ 25 บาท ผมจัดชาผสมกาแฟ 1 แก้ว อร่อยใช้ได้

ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์

จากนั้นก็มาขึ้นรถสองแถวเพื่อไป ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ โดยจองรถไว้ล่วงหน้าแล้ว รถมารับถึงที่พักเลย

รถสองแถวไปส่งถึงจุดหมาย ไม่ไกลจากที่พัก เป็นเหมือนบ้านหลังนึงที่ดัดแปลงเป็นที่สำหรับฟังบรรยาย

จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องบรรยาย ผู้บรรยายคืออาจารย์ประสาน แสงไพบูลย์ บรรยายเกี่ยวกับท้องทะเลไทย การอนุรักษ์ทะเล การรณรงค์เรื่องต่างๆ เป็นการบรรยายที่ดีๆมากๆ

ใช้เวลาบรรยายราวๆ 40 นาที

เสร็จแล้ว เราจะไปดำน้ำปลูกประการังกัน ก็มารับแว่นดำน้ำ (สน็อกเกิ้ล) กับถุงมือ มีให้เซ็นชื่อด้วย ถุงมือเอาไว้เกาะเชือก

รับเสื้อชูชีพ

จากนั้นก็นั่งรถสองแถวไปที่บริเวณจุดดำน้ำ ที่ทางค่ายจัดไว้ให้ ไม่ไกลกันนัก

ดำน้ำปลูกประการัง

ตรงนี้เราก็ว่ายน้ำ เกาะเชือกไปที่แพกลางทะเลห่างจากฝั่งระยะทางประมาณ 200 เมตร มีพี่ทีมงานคอยดูแลตลอด ตัวผมเองว่ายน้ำไม่เป็นก็กลัวเหมือนกัน ซึ่งมีพี่ๆคอยดูแลตลอด สนุกมาก

ขอบคุณพี่แพร พี่อาร์ม และพี่ๆทุกคนที่คอยดูแลผมครับ

ว่ายไปถึงแพกลางทะเลก็จะมีวิทยากรมาสาธิตการปลูกประการังกับท่อ PVC แล้วก็ให้เราขันน็อตประการังเข้ากับท่อ

ได้แล้วประการังของเรา

จากนั้นทีมงานก็จะเอาประการังไปปลูกให้ใต้ทะเล

เกาะขาม

ขึ้นจากน้ำก็มาหาของกินมื้อเที่ยง ผมจัดข้าวกะเพราหมู กับปลาหมึกมา รวม 100 บาท กับน้ำอีกขวดนึง

จากนั้นก็ต้องรีบไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ เพื่อไปเกาะขามกันต่อครับ ตรงนี้ใครจะไปหรือไม่ไปก็ได้ เสียค่าเรือ 250 บาท นั่งรถสองแถวต่อมาที่ท่าเรือเขาหมาจอ อยุ่ไม่ไกลจากจุดที่ดำน้ำ ตรงท่าเรือนี้ผมเคยมาตอนเรียน ม.4 ค่ายวิทยาศาสตร์ครับ ตอนนั้นคุณครูก็พามาดำน้ำดูประการัง ก็เลยคิดถึงวันเวลาเก่าๆกับเพื่อนๆสมัยเรียนเลย

รอเรือประมาณ 20 นาที ระหว่างนั้นเราก็นั่งกินข้าวที่ท่าเรือ

กินข้าวเสร็จ สักพักเรือก็มาพอดี เดินไปขึ้นเรือได้ โดยเสื้อชูชีพแล้วก็สน็อคเกิ้ลเรายืมมาจากทางค่ายครับ อาจารย์ผู้บรรยายบอกว่าให้ยืม ใช้เสร็จก็เอามาคืนทีหลัง

ขึ้นมาบนเรือ ได้มานั่งที่ท้ายเรือ บรรยากาศดีมาก

ถึงเกาะขามแล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีจากท่าเรือ

บนเกาะ บริเวณท่าเรือจะเป็นสะพานไม้ให้เดิน ไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว

จุดบริการนักเที่ยวต้องเดินเรียบไปตามสะพานไม้ห่างจากท่าเรือ 200 เมตร มีร้านค้า จุดให้เช่าเสื่อ เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ ให้เช่าเรือคายัค แล้วก็ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ

มีจุดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเยอะพอสมควร คนก็ค่อนข้างเยอะ

เจอหมาตัวนี้นอนเล่นอยู่ด้วย ดูมีความสุขนะเนี่ย

พี่ๆ ก็เช่าเสื่อมานั่งกันบริเวณชายหาด ใต้ต้นไม้ ที่ร่มๆ ใครไม่ลงน้ำก็นั่งเล่นตรงนี้

ส่วนผมลงเล่นน้ำครับ ไหนๆก็มาแล้วอะนะ บริเวณชายหาดมีจุดให้ลงเล่นน้ำ ดำน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกให้ใส่เสื้อชูชีพทุกคน

น้ำที่นี่ใส ตัวผมเองว่ายน้ำไม่เป็น อาศัยเกาะเชือกไปแล้วก็กลับ สนุกมาก

ขอบคุณภาพจากพี่ View

ขึ้นจากน้ำ ก็ไปล้างตัว แล้วก็มานั่งพักที่เสื่อ ดูๆแล้วชายหาดที่นี่สวยมาก นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมชอบมาก คือนั่งบนชายหาด ดูคลื่นทะเลสวยๆ

ที่จุดอื่นๆของเกาะก็มี ที่ให้ถ่ายรูป เช่น ชิงช้า

เกาะนี้ดูสะอาดมาก แทบไม่เจอขยะเลย แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีขยะเสียทีเดียว ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ขยะพลาสติก

จากนั้นก็มีประกาศจากทางเกาะว่า คลื่นเริ่มรุนแรงมากขึ้น เที่ยวเรือสุดท้ายจะออกจากเกาะเวลา 15:30 ทำให้เราต้องรีบเก็บของเตรียมตัวกลับครับ

ไปรอที่ท่าเรือ เรือมาแล้ว

พอเวลา 15:30 เรือก็ออกจากเกาะขาม ตรงเวลามาก บายๆ เกาะขาม

กลับมายังท่าเรือเขาหมาจอ ซึ่งรถสองแถวก็มารอรับพวกเราอยู่แล้ว จากนั้นก็เอาอุปกรณ์ไปคืนที่ค่ายฯ แล้วก็เดินทางกลับที่พักครับ

กลับที่พัก

เหนื่อยพอสมควรกับการเล่นน้ำที่เกาะขาม มาถึงที่พักก็อาบน้ำ เปลี่ยนชุดครับ พร้อมกับการเตรียมอาหารช่วงเย็น ที่เราจะมีปาร์ตี้กันต่อ หน้าที่ของผมคือล้างแแก้ว

ปาร์ตี้จะมีกันที่ลานด้านในของรีสอร์ทครับ ติดกับทะเล

มีปิ้งกุ้ง ปู ปลาหมึก อาหารทะเลเหมือนเดิม บรรยากาศก็ดีครับ สนุก เฮฮากันอย่างมาก ผมได้นั่งคุยกับพี่คนนึงที่ไม่ดื่มแอลกอฮอเหมือนกันก็สนุกดี ได้แลกเปลี่ยนอะไรหลายอย่างๆ

อื่นๆ

สำหรับเรื่องคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ ของผมใช้ AIS บริเวณที่พัก สัญญาณมีแค่ 2 ขีด เล่น ROV มีกระตุกๆอยู่หน่อยๆนะ เน็ตไม่แรง
แต่ที่เกาะขามสัญญาณแรงมาก

ค่าใช้จ่าย

ค่า burger king ขามา 150 บาท

ค่าที่พัก อาหารทะเลตอนเย็น ค่าสองแถว  1,775 บาท

ค่าเรือไป-กลับ เกาะขาม 250 บาท

ค่าชากาแฟ 50 บาท

ค่าอาหารตอนเที่ยงก่อนไปเกาะขาม 100 บาท

ค่าขนม น้ำ The glass house 200 บาท

ค่ามะนาวโซดา Sky gallery 110 บาท

ค่ารถ ค่าทางด่วน มอเตอร์เวย์  300 บาท

รวม 2,935 บาท

จบแล้ว

สรุปสองวันที่แสมสาร เกาะขาม ดำน้ำ ปลูกประการังสนุกมากครับ ตอนแรกก็กังวลว่าผมว่ายน้ำไม่เป็นจะดำน้ำสนุกหรือป่าว และไม่ดื่มแอลกอร์ด้วย เลยอาจจะเข้ากับใครไม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆรวมๆแล้วก็สนุกดีนะ

สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นทริปขากลับ ไปแวะพัทยาก่อนกลับกรุงเทพครับ มีแวะ The glass house กับ Sky Gallery ผมเลยขอแยกเป็นอีกบล็อกนึงครับ

ตอนต่อไป

https://benzneststudios.com/blog/benznest-trip/coffee-cafe-pattaya-chonburi-trip-november-2018/